ข่าวกีฬา

ข่าวกีฬา “ไก่จิกผีตายคาโรงละคร” ! 5 ประเด็น แมนยู แพ้ยับ สเปอร์ส

ข่าวกีฬา แมนเสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดช้ำหลังจากที่เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ บุกมาไล่ยำย่อยยับไม่นับญาติสกอร์ 1-6 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้สถานการณ์เก้าอี้กุนซือของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เริ่มสั่นคลอนเต็มที

ข่าวกีฬา

ข่าวกีฬา ต้องยอมรับว่าแมตช์นี้ โชเซ่ มูรินโญ่ วางหมากด้วยความรัดกุมแม้ว่าพวกเขาจะเสียท่าไปก่อนตั้งแต่ไก่โห่จากจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็ตาม แต่ สเปอร์ส ยังคงเล่นด้วยความมุ่งมั่น และเชื่อในศักยภาพของตัวเองจนกระทั่งจัดการเอาคืนแบบทบต้นทบดอก 6 ประตูรวด

จุดเปลี่ยนสำคัญในเกมนี้คงหนีไม่พ้นการโดนใบแดงของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ในช่วงที่สกอร์ตามหลัง 1-2 ทำให้ทีมต้องเสียเปรียบอย่างหนัก ที่สำคัญแนวรับก็เล่นได้อย่างย่ำแย่เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “เร้ด เดวิลส์” โดยถลุงยับจน ดาบิด เด เคอา ปวดหลังเพราะต้องก้มลูกบอลในตาข่าย

1. มูรินโญ่ โชว์กึ๋นสมราคมยอดกุนซือ
หากจะถามว่าใครที่ดีใจจนหัวใจพองโตที่สุดในเกมนี้คงหนีไม่พ้น โชเซ่ มูรินโญ่ เพราะไม่ใช่แค่เขาจะบุกมาชนะทีมเก่าถึงสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เท่านั้น แต่ยังจัดการยัดเยียดความปราชัยแบบย่อยยับอับปางให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซะด้วย

สเปอร์ส อาจจะเริ่มต้นเกมไม่ค่อยดีนักเมื่อดันเสียจุดโทษตั้งแต่ไก่โห่ แต่ “เฮียมู” ยังคงแสดงให้เห็นถึงการวางแท็คติกเกมรับได้ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ทั้งสองทีมมีผู้เล่น 11 คนเท่ากัน แต่หลังจากที่เจ้าบ้านโดนใบแดง มูรินโญ่จัดการเปลี่ยนระบบเกมรับ และเน้นการเล่นเกมรุกมากขึ้น

ที่สำคัญการที่ “ไก่เดือยทอง” ได้ประตูนำห่างถึง 4-1 ในครึ่งแรก ทำให้ครึ่งหลังพวกเขาเล่นสบายสุดๆ เพราะทีมมีผู้เล่นมากกว่า และประตูก็นำห่าง ฉะนั้นการเล่นจังหวะสวนกลับจึงเป็นแผนที่ มูรินโญ่ นำมาใช้ในช่วง 45 นาทีสุดท้าย และก็เป็นแผนเด็ดที่เจ้าตัวมักจะใช้เป็นประจำเมื่อทีมครองความได้เปรียบ

ฉะนั้นในครึ่งหลังต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด โชคดีสุดๆ ที่เสียแค่สองประตูเท่านั้น เพราะหาก มูรินโญ่ เน้นความโหดสกอร์อาจจะทิ้งห่างไปมากกว่านี้ แต่ด้วยผลงานของ “ไก่เดือยทอง” ตอนนี้ต้องบอกว่ามีโอกาสสูงมากๆ ที่ทีมจะจบอันดับท็อปโฟร์ ส่วน แมนฯ ยูฯ….คงต้องมีการปรับทัพครั้งใหญ่

2. ลินเดอเลิฟ ไม่ใช่ปัญหา ?
ช่วงที่ผ่านมา วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นจุดอ่อนในเกมรับของทีม และมีการเรียกร้องให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องจัดการดร็อปเขา และให้โอกาส เอริก ไบยี่ ซึ่งหายเจ็บและโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในเกมคาราบาว คัพ ที่ไล่ต้อน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

โซลชา ตัดสินใจเลือก ไบยี่ จับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในเกมนี้ และดูเหมือนสาวก “ปีศาจแดง” จะพอใจกับแนวทางนี้ แต่กลายเป็นว่า ไบยี่ นอกจากจะไม่ช่วยให้เกมรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แข็งแกร่งแล้ว ยังเล่นได้อย่างย่ำแย่ และมีส่วนกับการเสียประตูของทีมเยอะมาก

ในจังหวะที่เสียประตูตีเสมอ ไบยี่  สกัดบอลได้ก๊องแก๊งไม่สมกับกองหลังที่มีประสบการณ์ จังหวะที่โดนนำ 2-1 ไบยี่ ก็ดันขาดสมาธิเดินเอ้อระเหยลอยชายไม่รีบร้อนวิ่งตามประกบ ซน ฮึง-มิน ในขณะที่ แฮร์รี่ เคน เล่นเร็ว และนำไปสู่การได้ประตู ขณะที่ประตูสามก็ดันส่งบอลเข้ากลางที่หน้ากรอเขตโทษตัวเอง จนโดน เคน ลงทัณฑ์ และยังมีอีกหลายจังหวะที่เล่นผิดพลาด

ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า คุมพื้นที่ได้ไม่ดี และไม่สามารถจัดการกับความเร็วของ ซน ได้เลย ในขณะที่ ลุค ชอว์ อาการหนักกว่าเพราะพลาดหลายจังหวะทำให้แนวรุกทางริมเส้นของ สเปอร์ส บุกเข้ามากดดันได้ตลอด แถมยังเฟอะฟะในจังหวะโดนตีเสมอด้วย ส่วนเริ่มเกมบุกไม่ต้องพูดถึงไม่มีให้เห็น

ขณะที่ แม็กไกวร์ น่าจะเป็นผู้เล่นเกมรับที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของทีมในแมตช์นี้ พยายามที่จะแสดงความเป็นผู้นำซึ่งสมกับตำแหน่งกัปตันทีม เอาชนะลูกโด่งได้ดี และพยายามคุมพื้นทีม แต่สุดท้ายแล้วการที่เพื่อนร่วมทีมรับเล่นผิดพลาดเยอะมาก ทำให้ “บิ๊กแม็ค” ไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้จริงๆ

3. ใบแดงจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม
ต้องยอมรับว่า อองโตนี่ มาร์กซิยาล เสียท่า เอริค ลาเมล่า อย่างแท้จริง เพราะเจ้าตัวดันไปตอบโต้ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ด้วยการแตะเบาๆ ไปที่ใบหน้า ซึ่ง ลาเมล่า ก็สวมบทดาราฮอลลีวู้ดได้อย่างแนบเนียนลงไปนอนกุมหน้าราวกับโดนตบด้วยความแรงร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง

แน่นอนว่าพฤติกรรมที่ มาร์กซิยาล กระทำเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่มีน้ำใจนักกีฬา แต่ต้องยอมรับว่า แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินทำได้ถูกต้องในการลงโทษ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ แต่กระนั้นเขาก็ควรมีมาตรฐานเดียวกันเพราะ ลาเมล่า ชักศอกใส่หน้า มาร์กซิยาล ก่อน

หากในจังหวะนี้ เทย์เลอร์ เลือกที่จะเช็ค ลาเมล่า คงไม่ได้โดนแค่ใบเหลืองแน่นอน ฉะนั้นการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในขณะที่สกอร์โดนนำ 2-1 ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ เพราะการเหลือผู้เล่นน้อยกว่ากับทีมที่มี มูรินโญ่ กุมบังเหียน โอกาสที่จะโดนสวนกลับและยิงประตูเยอะๆ ก็มีสูงเลยทีเดียว

แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ เพราะ มูรินโญ่ เน้นการเล่นเกมรับที่รัดกุมเพื่อรอจังหวะสวนกลับ ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะพวกเขามีผู้เล่นแนวรุกที่รวดเร็ว กอปรกับเกมรับที่อ่อนยวบของ “ปีศาจแดง” ทำให้สกอร์ไหลเป็นเทน้ำเทท่าอย่างที่เห็น

4.  เคน โชว์ฟอร์มเด็ดเกินห้ามใจ
เกมนี้แนวรุกของ สเปอร์ส เล่นได้อย่างโดดเด่นมาก และสามารถฉีกเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดกระจุย แต่หากจะมองหาผู้เล่นที่โดดเด่นในเกมบุกของ “ไก่เดือยทอง” ทุกๆ คนต้องชี้เป้าไปที่ แฮร์รี่ เคน เพราะวันนี้เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งมากๆ

แม้ว่า ซน จะจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม แต่ฟอร์มการเล่นของ เคน ต้องบอกเลยว่าครบเครื่องโดยเฉพาะในพื้นที่สุดท้าย เขาสามารถกดดัน แม็กไกวร์ ในจังหวะที่ได้ประตูแรก, จากนั้นก็โชว์ความสุดยอดในเกมเล่นจังหวะฟรีคิกเร็วส่งให้ ซน หลุดเข้าไปทำประตูที่สอง ก่อนที่จะจัดการซัดประตูให้ทีมนำห่าง 3-1

ก่อนที่จะมาจัดการกดจุดโทษอย่างเฉียบคมจน ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกันเป็นประตูปิดท้าย ฉะนั้นต้องยอมรับว่าแมตช์นี้ เคน ทำผลงานได้ครบเครื่องอย่างแท้จริง และนี่เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเขาคือกองหน้าที่เหนือกว่าดาวยิงทุกๆ คนในอังกฤษ ณ เวลานี้

5. แสงสว่างโซลชาใกล้ริบหรี่เต็มที
จะว่าไปแล้ว โซลชา ผลงานกระท่อนกระแท่นตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา และมีข่าวจะโดนปลดหลายต่อหลายครั้ง แต่ในช่วงท้ายซีซั่น “น้าลูกอม” สามารถกระตุ้นลูกทีมให้กลับมามีแรงฮึด จนกระทั่งสามารถจบฤดูกาลในอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเหลือเชื่อ

ผลงานแบบนั้นทำให้สาวก “เร้ด อาร์มี่” เริ่มมีความมั่นใจในศักยภาพของ โซลชา ว่าจะสามารถนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่แล้วเมื่อซีซั่น 2020/2021 เปิดฉากขึ้นมา พวกเขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจใน “กึ๋น” ของตำนานหัวหอกหน้าทารก เพราะโดน คริสตัล พาเลซ ไล่ต้อน 1-3

แม้ในเกมคาราบาว คัพ จะชนะทั้ง ลูตัน ทาวน์ และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยสกอร์สวยหรูก็ตาม ซึ่งทำให้เหล่าแฟนบอล “ผีแดง” ต่างมีลอยยิ้มพิมพ์ใจอยู่บ้าง แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฎจากผลงานในเกมรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ไม่ว่าจะฟอร์มการเล่นของทีม, แท็คติกที่สู้ มูรินโญ่ ไม่ได้เลย รวมไปถึงการปรับหมากแก้เกม และการกระตุ้นลูกทีมที่แทบไม่มีให้เห็น ตอนนี้บรรดาแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกิดคำถามแล้วว่า โซลชา สมควรที่จะได้อยู่นั่งกุมบังเหียนยอดทีมแห่ง “โรงละครแห่งความฝัน” ต่อไปหรือไม่

อย่างลืมว่าในเวลานี้กุนซือชั้นยอดอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ยังว่างงานอยู่ ฉะนั้นประโยคเด็ดที่ว่า “ปลุกปีศาจต้องใช้ปีศาจ” อาจจะต้องเก็บเอาไว้ในลิ้นชักไปก่อน และน่าจะหันมาใช้ประโยคที่ว่า “ปลุกปีศาจต้องใช้คนอื่น” แทน

 

 

 

ขอบคุณข่าว : www.siamsport.co.th
สนใจสมัคร ติดต่อ : ufabetspace.com